เมนูหวานไทยย้อนยุค

Listen to this article
Ready
เมนูหวานไทยย้อนยุค
เมนูหวานไทยย้อนยุค

มนต์เสน่ห์เมนูหวานไทยย้อนยุค: สัมผัสรสชาติอดีตกับวราพร ศรีสวัสดิ์

โดย วราพร ศรีสวัสดิ์, นักประวัติศาสตร์อาหารไทย

ภาพขนมหวานไทยย้อนยุค (ใส่รูปภาพที่นี่)

ภาพ: ขนมหวานไทยโบราณที่หาทานยากในปัจจุบัน (รูปภาพสำหรับประกอบเท่านั้น)

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ดิฉันวราพร ศรีสวัสดิ์ นักเขียนและนักประวัติศาสตร์อาหารไทยค่ะ วันนี้ดิฉันขอพาทุกท่านเดินทางย้อนเวลาไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของ "เมนูหวานไทยย้อนยุค" ที่หลายท่านอาจไม่เคยได้ยินชื่อ หรือเคยลิ้มลองรสชาติมาก่อน ความหลงใหลในศิลปะการทำอาหารและการศึกษาประวัติศาสตร์อาหารไทยเป็นแรงผลักดันให้ดิฉันค้นคว้าและรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับขนมหวานไทยโบราณที่นับวันจะเลือนหายไปจากความทรงจำ

เหตุใดเมนูหวานไทยย้อนยุคจึงน่าสนใจ?

ขนมหวานไทยไม่ได้เป็นเพียงอาหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ละเมนูล้วนมีเรื่องราวความเป็นมา มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยนั้น การทำขนมหวานไทยยังเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความประณีต ความพิถีพิถัน และความรู้ความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย

นอกจากนี้ เมนูหวานไทยย้อนยุคยังมีความแตกต่างจากขนมหวานที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน ทั้งในด้านวัตถุดิบ วิธีการทำ และรสชาติ หลายเมนูใช้วัตถุดิบที่หาได้ยากในปัจจุบัน หรือมีวิธีการทำที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้ขนมหวานเหล่านี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์

ตัวอย่างเมนูหวานไทยย้อนยุคที่น่าสนใจ

จากการศึกษาและค้นคว้าของดิฉัน พบว่ามีเมนูหวานไทยย้อนยุคมากมายที่น่าสนใจ แต่ในวันนี้ดิฉันขอหยิบยกมานำเสนอเพียงบางส่วน เพื่อเป็นน้ำจิ้มให้ทุกท่านได้รู้จักและอยากติดตามเรื่องราวของขนมหวานไทยโบราณมากยิ่งขึ้น:

1. ขนมพระพาย

ขนมพระพาย (ใส่รูปภาพที่นี่)

ภาพ: ขนมพระพาย (รูปภาพสำหรับประกอบเท่านั้น)

ขนมพระพายเป็นขนมโบราณที่ปรากฏในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง เช่น เรื่องอิเหนา เป็นขนมที่ใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ ทำจากแป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาลปี๊บ และมะพร้าวทึนทึก มีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กๆ คล้ายเม็ดสาคู แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย นำไปต้มในน้ำกะทิจนสุก รับประทานกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ ขนมพระพายมีรสชาติหวานมัน กลมกล่อม หอมกลิ่นกะทิและน้ำตาลปี๊บ

เกร็ดน่ารู้: ชื่อ "พระพาย" มาจากชื่อเทพแห่งลมในศาสนาฮินดู ซึ่งอาจสื่อถึงความเบา สบาย และความเย็นสดชื่นของขนมชนิดนี้

2. ขนมโสมนัส

ขนมโสมนัส (ใส่รูปภาพที่นี่)

ภาพ: ขนมโสมนัส (รูปภาพสำหรับประกอบเท่านั้น)

ขนมโสมนัสเป็นขนมที่ทำจากข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่นำไปแช่น้ำแล้วโม่ให้ละเอียด ผสมกับน้ำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ นำไปกวนในกระทะทองเหลืองจนเหนียวข้น แล้วนำไปอบควันเทียนให้หอม ขนมโสมนัสมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสีขาวนวล รสชาติหวานมัน หอมกลิ่นควันเทียน

เกร็ดน่ารู้: ชื่อ "โสมนัส" แปลว่า ความสุข ความยินดี ซึ่งอาจสื่อถึงความสุขที่ได้รับจากการรับประทานขนมชนิดนี้

3. ขนมช่อม่วง

ขนมช่อม่วง (ใส่รูปภาพที่นี่)

ภาพ: ขนมช่อม่วง (รูปภาพสำหรับประกอบเท่านั้น)

ขนมช่อม่วงเป็นขนมที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและประณีตบรรจง ตัวขนมทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำดอกอัญชัน ทำให้มีสีม่วงสวยงาม ไส้ทำจากไก่ผัดกับเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นรูปดอกไม้ แล้วนำไปนึ่ง ขนมช่อม่วงมีรสชาติหวานเค็ม กลมกล่อม หอมกลิ่นดอกอัญชัน

เกร็ดน่ารู้: ขนมช่อม่วงเป็นขนมที่นิยมทำในวัง และมักใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ

4. ขนมลืมกลืน

ขนมลืมกลืน (ใส่รูปภาพที่นี่)

ภาพ: ขนมลืมกลืน (รูปภาพสำหรับประกอบเท่านั้น)

ขนมลืมกลืนเป็นขนมที่มีลักษณะคล้ายวุ้น ทำจากแป้งถั่วเขียว น้ำตาลทราย และน้ำลอยดอกมะลิ นำไปกวนในกระทะทองเหลืองจนเหนียวข้น แล้วหยอดลงในกระทงใบตอง โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด ขนมลืมกลืนมีรสชาติหวานหอม ชื่นใจ ละลายในปาก

เกร็ดน่ารู้: ชื่อ "ลืมกลืน" มาจากความอร่อยของขนมชนิดนี้ ที่ทำให้ผู้รับประทานเพลิดเพลินจนลืมกลืน

ความท้าทายในการอนุรักษ์เมนูหวานไทยย้อนยุค

การอนุรักษ์เมนูหวานไทยย้อนยุคเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากวัตถุดิบบางชนิดหาได้ยาก หรือมีราคาแพง นอกจากนี้ วิธีการทำขนมหวานโบราณก็มีความซับซ้อนและต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจที่จะเรียนรู้และสืบทอด

อย่างไรก็ตาม ดิฉันเชื่อว่าการอนุรักษ์เมนูหวานไทยย้อนยุคเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นการรักษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของไทยไว้ให้คงอยู่สืบไป ดิฉันจึงมุ่งมั่นที่จะศึกษาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับขนมหวานไทยโบราณให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักและเห็นคุณค่าของขนมหวานไทยที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเรา

สูตรลับและเคล็ดลับ (บางส่วน)

การทำขนมไทยโบราณนั้น นอกจากวัตถุดิบที่ถูกต้องแล้ว เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่ "ใจ" ค่ะ ใจที่รักในการทำอาหาร ใจที่อยากสืบสานวัฒนธรรม และใจที่พร้อมจะเรียนรู้และพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ:

  • การเลือกวัตถุดิบ: เลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพดี โดยเฉพาะกะทิ ควรใช้กะทิสดคั้นเอง จะทำให้ขนมมีรสชาติหอมมันอร่อยยิ่งขึ้น
  • การกวน: การกวนขนมต้องใช้ไฟอ่อนๆ และกวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมไหม้ติดกระทะ
  • การอบควันเทียน: การอบควันเทียนจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับขนม ควรใช้เทียนอบขนมที่มีคุณภาพดี และอบในภาชนะที่ปิดสนิท

ร่วมอนุรักษ์เมนูหวานไทยย้อนยุคไปกับเรา

ดิฉันขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันอนุรักษ์เมนูหวานไทยย้อนยุค โดยการศึกษา เรียนรู้ และลองทำขนมหวานโบราณด้วยตนเอง นอกจากนี้ ท่านยังสามารถสนับสนุนร้านขนมไทยที่ยังคงทำขนมหวานโบราณอยู่ เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาสืบทอดวัฒนธรรมนี้ต่อไป

หากท่านใดสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูหวานไทยย้อนยุค สามารถติดตามผลงานของดิฉันได้ทาง [ใส่ช่องทางติดต่อ เช่น บล็อก, เพจ Facebook, เว็บไซต์] ดิฉันยินดีที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับทุกท่าน

สุดท้ายนี้ ดิฉันหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่านหันมาสนใจและอนุรักษ์เมนูหวานไทยย้อนยุคกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ

ด้วยความปรารถนาดี, วราพร ศรีสวัสดิ์

คำถามชวนคิด: ท่านผู้อ่านเคยลิ้มลองเมนูหวานไทยย้อนยุคเมนูใดบ้าง? และมีความประทับใจอย่างไร? ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของท่านได้ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้

หมายเหตุ: รูปภาพที่ใช้ในบทความนี้เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น หากท่านต้องการสูตรขนมหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อดิฉันได้โดยตรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (7)

นักชิมสมัครเล่น

บทความน่าสนใจมากค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่ารูปภาพประกอบยังไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ค่ะ อยากให้มีรูปที่เห็นเนื้อขนมชัดๆ กว่านี้หน่อย จะช่วยให้คนอยากลองทำตามมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้ อยากให้เพิ่มสูตรขนมที่ทำง่ายๆ ด้วยตัวเองได้ด้วย จะดีมากๆ เลยค่ะ

คนรักขนมไทย

บทความนี้ทำให้คิดถึงคุณย่าเลยค่ะ ท่านชอบทำขนมถ้วยให้กินตอนเด็กๆ ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว อ่านบทความนี้แล้วเหมือนได้กลับไปอยู่ในความทรงจำเก่าๆ ขอบคุณที่ทำให้คิดถึงค่ะ

สายหวานเบาหวาน

ขนมหวานไทยโบราณอร่อยจริงค่ะ แต่หวานเกินไปสำหรับคนเป็นเบาหวานอย่างฉันเลยค่ะ เสียดายมากที่ทานได้ไม่เยอะ อยากให้มีสูตรที่ปรับลดปริมาณน้ำตาลลงบ้าง จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ

เด็กน้อยหอยสังข์

ผมว่าขนมหวานไทยบางอย่างมันหากินยากเกินไปครับ อย่างขนมเรไร เนี่ย ผมไม่เคยเห็นเลยครับ อยากให้บทความนี้ช่วยบอกพิกัดร้านอร่อยๆ ที่ยังมีขายขนมพวกนี้อยู่ด้วยครับ จะได้ตามไปชิม

ขนมหวานในใจ

อ่านบทความนี้แล้วคิดถึงขนมหวานสมัยเด็กๆ เลยค่ะ ตอนเด็กๆ คุณยายชอบทำให้ทานบ่อยมาก โดยเฉพาะขนมตะโก้ กับขนมเปียกปูน พอโตขึ้นหากินยากมากเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะเจอแต่แบบที่ทำสำเร็จรูป รสชาติก็ไม่เหมือนเดิม อยากให้มีร้านที่ทำขนมไทยโบราณแบบนี้เยอะๆ จังเลยค่ะ จะตามไปอุดหนุนแน่นอน!

แมวอ้วนกินจุ

อ่านแล้วอยากกินขนมจากเลยค่ะ! แต่แถวบ้านหาซื้อยากมากกกก ส่วนตัวคิดว่าราคาก็สูงไปนิดนึงด้วยค่ะ ถ้าเทียบกับขนมสมัยใหม่ แต่ก็เข้าใจว่าวัตถุดิบอาจจะหายากกว่า อยากให้มีโครงการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่หันมาทำขนมไทยโบราณเยอะๆ จะได้ไม่สูญหายไป

ป้าศรีทำครัว

ดิฉันทำขนมไทยมาตั้งแต่สาวๆ ค่ะ สูตรที่ให้มาในบทความนี้ก็ถือว่าใช้ได้เลยนะคะ แต่เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่การเลือกวัตถุดิบค่ะ ต้องใช้กะทิสด มะพร้าวน้ำหอม แป้งอย่างดี ถึงจะอร่อยเหาะ ที่สำคัญต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำนะคะ

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

05 มิถุนายน พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดี
Advertisement Placeholder (Below Content Area)