6 อาหารที่ทำให้เหนื่อยง่าย เกิดอาการอ่อนล้า ไม่มีแรง

อาหาร 6 อย่างที่ทำให้เหนื่อยง่าย เกิดอาการอ่อนล้า ไม่มี […]

อาหาร 6 อย่างที่ทำให้เหนื่อยง่าย เกิดอาการอ่อนล้า ไม่มีแรง

บทนำ

ในปัจจุบันการใช้ชีวิตที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด อาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง เริ่มเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากขึ้นในหมู่วัยทำงาน และหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้เลยทีเดียว อาการเหล่านี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ภาวะโลหิตจาง หรือแม้กระทั่งอาหารที่เรารับประทานเข้าไปก็มีส่วนสำคัญ ต่อไปนี้คืออาหาร 6 อย่างที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อไม่อยากให้อาการเหนื่อยล้าถามหา

อาหารที่ทำให้อ่อนล้า

1. อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปเป็นอาหารที่มีการปรุงแต่งดัดแปลงมาแล้วหลายขั้นตอน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กรรมวิธีในการทำให้เก็บรักษาได้นานขึ้น ซึ่งมักจะเต็มไปด้วยไขมันและโซเดียมในปริมาณที่สูง หากบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ ซึ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายขึ้น

• อาหารกระป๋อง
• เบคอน
• ไส้กรอก
• แฮม

2. น้ำตาล
น้ำตาลเป็นอาหารที่ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว แต่พลังงานดังกล่าวก็จะหมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายต้องใช้วิตามินบีในปริมาณมากในการย่อยน้ำตาลด้วย

• น้ำอัดลม
• น้ำผลไม้
• ขนมหวาน
• ชาและกาแฟที่เติมน้ำตาล

3. คาเฟอีน
ถึงแม้ช่วยให้รู้สึกตื่นขึ้นได้ชั่วคราว แต่หากบริโภคมากเกินไปก็จะทำให้อ่อนล้าและนอนหลับได้ยากขึ้น เพราะคาเฟอีนจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของอะดีโนซีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการนอนหลับตามธรรมชาติ

• กาแฟ
• ชา
• เครื่องดื่มชูกำลัง
• ช็อกโกแลต

4. ไขมันทรานส์
เป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพและมักจะพบได้ในอาหารขยะและอาหารแปรรูป เช่น ขนมอบและของทอดต่างๆ ไขมันทรานส์จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลแอลดีแอล (ไขมันชนิดไม่ดี) และลดระดับคอเลสเตอรอลเอชดีแอล (ไขมันชนิดดี) ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาบางชิ้นที่พบว่าไขมันทรานส์อาจเพิ่มความอ่อนล้าและลดสมาธิได้

• มาร์การีน
• เนยเทียม
• ขนมอบ
• ของทอด

5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะรบกวนการนอนหลับทำให้หลับลึกและมีคุณภาพที่น้อยลง เมื่อไม่ได้นอนหลับที่มีคุณภาพ ก็จะส่งผลให้วันถัดมาตื่นขึ้นมาพร้อมอาการเหนื่อยล้าและไม่มีแรง แถมยังอาจเพิ่มอาการปวดหัว วิงเวียน และคลื่นไส้ได้ด้วย

• เบียร์
• ไวน
• สุรา

6. อาหารที่แพ้หรือไม่ถูกกับร่างกาย
อาหารบางชนิดที่แพ้หรือไม่ถูกกับร่างกาย จะกระตุ้นให้เซลภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างสารแอนติบอดีออกมาต่อสู้ ซึ่งการสร้างสารแอนติบอดีนี่แหละที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างสารเคมีในร่างกาย อาทิ สารฮีสตามีน ทำให้มีอาการต่างๆ เช่น คัน ผื่นแดง คัดจมูก น้ำตาไหล วิงเวียนคลื่นเหียน ปวดท้อง ท้องเสีย ถ้ารับอาหารพวกนั้นเข้าไปในร่างกายเยอะๆ จะยิ่งเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการสร้างสารเคมีที่ว่านี้ให้มากขึ้น จนทำให้เหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้ในที่สุด

สรุป

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสุขภาพโดยรวม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ร่างกายมีพลัง ไม่เหนื่อยล้า ไม่มีอาการอ่อนแอได้ด้วย หากรู้สึกเหนื่อยล้าไม่มีแรง อย่ารอช้าที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ดีขึ้น หากทำตามคำแนะนำด้านบนได้ อาการเหนื่อยล้าก็จะไม่กลับมารบกวนอย่างแน่นอน

คีย์เวิร์ดแท็ก

• อาหารที่ทำให้เหนื่อยล้า
• อาหารอ่อนเพลีย
• อาการเหนื่อยล้า
• อาหารเพิ่มพลัง
• อาหารที่ไม่ควรรับประทานเมื่อเหนื่อยล้า