7 เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2567
7 เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2567 สรุป เครื่ […]
7 เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2567
สรุป
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นของทุกบ้านในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาว ด้วยการกำจัดแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคที่ล่องลอยอยู่ในอากาศซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จึงขอนำเสนอ 7 เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศยี่ห้อมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้อง
บทนำ
อากาศที่เราหายใจกันทุกวันเต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส การฆ่าเชื้อโรคในอากาศจึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ปลอดภัย เราจึงได้นำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศมาให้คุณได้พิจารณา รวมถึงข้อมูลเปรียบเทียบของเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ 7 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2567 เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ
เทคโนโลยีที่ใช้
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศแต่ละยี่ห้อใช้เทคโนโลยีแตกต่างกันไป ต่อไปนี้คือ 5 เทคโนโลยีที่พบมากที่สุด ได้แก่
- ตัวกรอง HEPA: เทคโนโลยีนี้ใช้ตัวกรองชนิดพิเศษที่สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากได้ถึง 0.3 ไมครอน จึงสามารถกำจัดฝุ่นละออง แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- UV-C: เทคโนโลยีนี้ใช้รังสี UV-C เพื่อฆ่าเชื้อโรคโดยทำลายสาย DNA และ RNA ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถแพร่กระจายได้
- ประจุไอออนลบ: เทคโนโลยีนี้ปล่อยประจุไอออนลบออกมาในอากาศ ซึ่งสามารถเกาะจับกับอนุภาคที่มีประจุบวกได้ เช่น ฝุ่นละออง แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส ทำให้ตกลงสู่พื้นและง่ายต่อการทำความสะอาด
- โอโซน: เทคโนโลยีนี้ใช้ก๊าซโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากก๊าซโอโซนสามารถก่อให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจได้หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
- แสง Plasmacluster: เทคโนโลยีนี้ใช้ประโยชน์จากอนุภาค Plasmacluster ซึ่งเป็นอนุภาคบวกและลบที่มีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรคโดยไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การเปรียบเทียบเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ 7 ยี่ห้อ
ชาร์ป (Sharp)
- ใช้เทคโนโลยี Plasmacluster
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 68 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 8 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 2 ปี
- รับประกัน 1 ปี
พานาโซนิค (Panasonic)
- ใช้เทคโนโลยี Nanoe™ X
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 42 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 5 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 1 ปี
- รับประกัน 1 ปี
3M (ฟิลเทรินี)
- ใช้เทคโนโลยีตัวกรอง HEPA
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 33 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 4 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 3 เดือน
- รับประกัน 1 ปี
COWAY (แอร์เมกซ์ 400)
- ใช้เทคโนโลยีประจุไอออนลบ
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 49 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 2 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 1 ปี
- รับประกัน 1 ปี
LG (PureCare™)
- ใช้เทคโนโลยี UV-C
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 20 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 1 ปี
- รับประกัน 1 ปี
Philips (AC1215/20)
- ใช้เทคโนโลยี VitaShield IPS
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 20 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 1 ปี
- รับประกัน 2 ปี
Samsung (AX50K5000GWSM)
- ใช้เทคโนโลยี Virus Doctor
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในพื้นที่สูงสุด 30 ตารางเมตร
- มีระบบฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองนาน 1 ปี
- รับประกัน 1 ปี
สรุป
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศทั้ง 7 ยี่ห้อที่เราได้นำเสนอมาล้วนมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยภายในบ้านได้ คุณสามารถเลือกเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศได้ตามความต้องการและงบประมาณของคุณ อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่าเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเสริม ไม่สามารถทดแทนการทำความสะอาดและการดูแลสุขภาพที่ดีได้
Keyword Phrase Tags
- เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ
- เทคโนโลยีตัวกรอง HEPA
- เทคโนโลยี Nanoe™ X
- เทคโนโลยี Plasmacluster
- เทคโนโลยี UV-C